หลังจากนั่งหาข้อมูลจากหลายๆเว็บไซต์อยู่นานก็พบข้อเท็จจริงว่า The dancing goats เป็นตำนานการถือกำเนิดของกาแฟ ซึ่งเรื่องมันเกิดขึ้นโดยมีชายเลี้ยงแพะคนหนึ่งนามว่า Kaldi เป็น ชาวอาราเบียน ซึ่งคงหมายถึงชาวเอธิโอเปียในปัจจุบัน ได้สังเกตพบว่าแพะของเขามีท่าทางผิดแปลกจากปกติทั่วไปคือ ร่าเริง กระปรี้กระเปร่า หลังจากที่มันกินเมล็ดพืชสีแดงคล้ายเชอรี่เข้าไป
Kaldi เกิดความพิศวงใจจึงลองลิ้มชิมรสดูบ้าง ปรากฏว่าเขาก็มีอาการเดียวกับแพะของเขา บางแหล่งข้อมูลบอกว่าเขามีอารมณ์อยากจะแดนซ์อยู่นานจนมืดค่ำเลยทีเดียว กลายเป็นตำนาน The dancing man ขึ้นมาทันใด (อันนี้ผมล้อเล่นครับ อิอิ)
จากนั้นความลับไม่มีอยู่ในโลก มีอิหม่ามบ้านใกล้เรือนเคียงทราบเรื่องเข้าก็เอาเมล็ดสีแดงนี้ไปกระเทาะ เปลือกแล้วต้มดื่ม ก็เลยกลายเป็น The dancing man อีกคน เรื่องราวแพร่สะพัดไปทั่วบ้านทั่วเมืองปากต่อปาก จนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
จริงๆแล้วผมพยายามที่จะหาข้อมูลต้นกำเนิดการปลูก หรือการถือกำเนิดกาแฟต้นแรกมาให้ได้อ่านมากๆแต่พอหาข้อมูลดูแล้ว แต่ละแหล่งข้อมูลบอกไม่ค่อยตรงกัน บ้างก็บอกว่าไม่ทราบแหล่งเพราะปูลกที่แน่นอน บ้างก็บอกเป็นพืชพื้นเมืองของอาบีซีเนีย และอาราเบีย บางท่านก็กล่าวว่ากาแฟเป็นพืชพื้นเมืองที่พบในเมืองคัพฟา เอาเป็นว่าตรงนี้ขอผ่านไปก่อน หากวันไหนทราบข้อมูลที่แน่ชัดจะนำมาให้ได้ทราบกัน
ส่วนคำเรียกว่า coffee เนี่ยมันเป็นคำที่เพื้ยนมาจาก "Kawah" อ่านว่า “คะวาฮ์” ซึ่งชาวอาระเบียใช้เรียกชื่อพืชชนิดนี้ แปลว่า พลัง (strength) ชาวตุรกีเรียกว่า “คะเวฮ์” (Kaveh) คือเอาง่ายๆว่ามันเปลี่ยนไปตามสำเนียงของแต่ละมุมโลกกันนั้นเองครับ จนมาจบที่ประเทศอังกฤษที่เรียกพืชชนิดนี้ว่า coffee แล้วคำนี้ก็แพร่ถูกใช้กันมากที่สุด เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่คนใช้มากที่สุดในโลกนั่นเอง ส่วนไทยเราก็รู้จักกันในชื่อ โกปี๊ ข้าวแฝ่ จนกลายเป็น "กาแฟ"ในปัจจุบันนี้นั่นเองครับ
กาแฟแพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยของเราผ่านนาย "ดีหมุน" คนไทยที่นับถืออิสลาม ที่โชคดีได้มีโอกาสไปแสวงบุญ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และเป็นผู้นำเมล็กกาแฟเข้ามาปลูกที่ ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นพันธุ์โรบัสต้า จนปลูกแพร่หลายในภาคใต้ทุกวันนี้
"บอกตรงๆว่าผมยังชอบชื่อ The dancing goats อยู่ วันหนึ่งความฝันของผมที่จะเปิดร้านกาแฟ ชื่อนี้ต้องเข้ามาอยู่ในร้านไม่ทางใดก็ทางหนึ่งละครับ ผมให้มันเป็นคีย์เวิดหลักของร้านเลยจริงๆ การเป็นนักดื่มกาแฟแล้วได้รู้ทราบถึงตำนานกาแฟ มันดูไม่น่าเชื่อเลยว่า เราห่างกันครึ่งโลก แต่ผมกลับได้ลองลิ้มชิมรสของพืชเมล็ดแดงนี้ของชนเผ่าเมื่อหลายพันปีมาแล้ว จิบกาแฟแล้วค่อยๆให้มันสัมผัสลิ้น รับรู้ถึงรสชาติ อันหอมหวานกับกลิ่นอันมีเสน่ห์ของมันให้มากๆนะครับก่อนที่จะกลืนมันลงไป ผมว่ามันได้บรรยากาศที่ดีทีเดียว ส่วนวันนี้ผมก็ขอจบบทความตำนานกาแฟเอาไว้ก่อน ขอตัวไปชงกาแฟสักแก้ว ผมรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน The dancing man อีกสักคนครับ อิอิ"
ขอบคุณภาพประกอบจาก edublog
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น